อาหารการกินในบ้านเราทุกวันนี้มีให้เลือกมากมายหลายเมนู ถ้ารู้จักเลือกทาน คุณก็จะได้รับประโยชน์จากอาหารเหล่านั้นเต็มร้อย แต่ถ้ากินตามใจปากโดยไม่เลือกแล้วละก็ อาหารเหล่านั้นก็จะกลายเป็นโทษต่อตัวคุณเอง อยากรู้แล้วใช่ไหมว่าเมนูเสี่ยงอันตรายจะเป็นเมนูใดบ้าง หวังว่าจะไม่ใช่จานโปรดของคุณ
โดนัท โดยเฉลี่ยแล้วจะให้พลังงานประมาณ 300 แคลอรี่ ในโดนัท 1 ชิ้นมีแป้งคาร์โบไฮเครตอยู่มากกว่า 50% ของที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน มีเกลือโซเดียวอยู่สูงมาก ทำให้ร่างกายขาดน้ำ นอกจากนี้โดนัทยังทอดในน้ำมันที่มีอุณหภูมิสูง ซึ่งน้ำมันประเภทนี้จะทำให้มีกลิ่นหืน และมีสารอนุมูลอิสระเกิดขึ้น ก่อให้เกิดสารพิษ และทำให้ร่างกายเมตาโบลิสิมช้าลง เป็นการคุกคามต่อสุขภาพที่ดี และยังเป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น
ไก่ทอด/นักเก็ต การรับประทานต่อครั้ง โดยทั่วไปจะให้พลังงาน 340 แคลอรี่ 50% เป็นไขมัน มีแป้งขนมปังผสมอยู่มาก จึงมีคาร์โบไฮเดรตอยู่สูง มีการเติมสารปรุงรส MSG ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้ นอกจากนี้นักเก็ตชิกเก้นบางอัน จะมีสารอะลูมิเนียม ซึ่งเป็นอันตรายต่อสมองและเป็นอันตรายต่อการเมตาโบลิสึมของร่างกายด้วย
คุ๊กกี้ ของว่างที่ถูกใจใครหลายคน ซึ่งเด่นชัดมาก คือสัดส่วนของน้ำตาลมีอยู่สูงถึง 23 กรัม อาหารประเภทที่มีน้ำตาลปริมาณสูงเช่นนี้ จะทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นและเกิดริ้วรอยได้เร็วยิ่งขึ้น
น้ำอัดลม สารตัวสำคัญที่มีอยู่ในน้ำอัดลม คือกรดกำมะถัน มีความเป็นกรดสูงมาก ซึ่งกรดที่สะสมอยู่ในร่างกาย ยากที่จะทำให้น้ำหนักตัวลดลง และน้ำโซดาที่เป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบจะเป็นตัวล้างแคลเซียมออกจากกระดูก จนทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน นอกจากนี้ในน้ำอัดลม 1 กระป๋อง จะมีน้ำตาลที่ไม่ให้พลังงานอยู่ 12 ช้อนชา ส่วนในน้ำอัดลมที่้ใช้น้ำตาลเทียมสังเคราะห์เพิ่มความหวาน ซึ่งจะทำให้ร่างกายกระหายน้ำตาลมากยิ่งขึ้น เนื่องจากน้ำตาลสังเคราะห์เหล่านี้มีความหวานมากกว่าน้ำตาลธรรมดามาก รวมไปถึงสีที่ใช้เติมในน้ำอัดลม ยังเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย
ไอศกรีม ของหวานที่ทุกคนโปรดปรานนี้ มีไขมันอยู่สูงมากเกินกว่า 50 % ของไขมันที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวัน มีคาร์โบไฮเดรตอยู่เกือบ 40% ของคาร์โบไฮเดรตที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวัน เต็มไปด้วยไขมันไฮโดรจีเน็ต และไขมันที่แปรเปลี่ยนจากธรรมชาติ นอกจากนี้ยังเพิ่มพูนโคเลสเตอรอล ทำให้เส้นเลือดแดงใหญ่อุดตัน มีสารอนุมูลอิสระในร่างกายเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคมะเร็ง
รู้โทษของอาหารเหล่านี้กันแล้ว คราวหน้าถ้าจะสั่งอาหาร อย่าลืมนึกถึงเมนูอาหารที่ดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพกันด้วยนะคะ....
ที่มาข้อมูล : นิตยสารเปรียว
โดนัท โดยเฉลี่ยแล้วจะให้พลังงานประมาณ 300 แคลอรี่ ในโดนัท 1 ชิ้นมีแป้งคาร์โบไฮเครตอยู่มากกว่า 50% ของที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน มีเกลือโซเดียวอยู่สูงมาก ทำให้ร่างกายขาดน้ำ นอกจากนี้โดนัทยังทอดในน้ำมันที่มีอุณหภูมิสูง ซึ่งน้ำมันประเภทนี้จะทำให้มีกลิ่นหืน และมีสารอนุมูลอิสระเกิดขึ้น ก่อให้เกิดสารพิษ และทำให้ร่างกายเมตาโบลิสิมช้าลง เป็นการคุกคามต่อสุขภาพที่ดี และยังเป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น
ไก่ทอด/นักเก็ต การรับประทานต่อครั้ง โดยทั่วไปจะให้พลังงาน 340 แคลอรี่ 50% เป็นไขมัน มีแป้งขนมปังผสมอยู่มาก จึงมีคาร์โบไฮเดรตอยู่สูง มีการเติมสารปรุงรส MSG ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้ นอกจากนี้นักเก็ตชิกเก้นบางอัน จะมีสารอะลูมิเนียม ซึ่งเป็นอันตรายต่อสมองและเป็นอันตรายต่อการเมตาโบลิสึมของร่างกายด้วย
คุ๊กกี้ ของว่างที่ถูกใจใครหลายคน ซึ่งเด่นชัดมาก คือสัดส่วนของน้ำตาลมีอยู่สูงถึง 23 กรัม อาหารประเภทที่มีน้ำตาลปริมาณสูงเช่นนี้ จะทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นและเกิดริ้วรอยได้เร็วยิ่งขึ้น
น้ำอัดลม สารตัวสำคัญที่มีอยู่ในน้ำอัดลม คือกรดกำมะถัน มีความเป็นกรดสูงมาก ซึ่งกรดที่สะสมอยู่ในร่างกาย ยากที่จะทำให้น้ำหนักตัวลดลง และน้ำโซดาที่เป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบจะเป็นตัวล้างแคลเซียมออกจากกระดูก จนทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน นอกจากนี้ในน้ำอัดลม 1 กระป๋อง จะมีน้ำตาลที่ไม่ให้พลังงานอยู่ 12 ช้อนชา ส่วนในน้ำอัดลมที่้ใช้น้ำตาลเทียมสังเคราะห์เพิ่มความหวาน ซึ่งจะทำให้ร่างกายกระหายน้ำตาลมากยิ่งขึ้น เนื่องจากน้ำตาลสังเคราะห์เหล่านี้มีความหวานมากกว่าน้ำตาลธรรมดามาก รวมไปถึงสีที่ใช้เติมในน้ำอัดลม ยังเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย
ไอศกรีม ของหวานที่ทุกคนโปรดปรานนี้ มีไขมันอยู่สูงมากเกินกว่า 50 % ของไขมันที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวัน มีคาร์โบไฮเดรตอยู่เกือบ 40% ของคาร์โบไฮเดรตที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวัน เต็มไปด้วยไขมันไฮโดรจีเน็ต และไขมันที่แปรเปลี่ยนจากธรรมชาติ นอกจากนี้ยังเพิ่มพูนโคเลสเตอรอล ทำให้เส้นเลือดแดงใหญ่อุดตัน มีสารอนุมูลอิสระในร่างกายเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคมะเร็ง
รู้โทษของอาหารเหล่านี้กันแล้ว คราวหน้าถ้าจะสั่งอาหาร อย่าลืมนึกถึงเมนูอาหารที่ดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพกันด้วยนะคะ....
ที่มาข้อมูล : นิตยสารเปรียว
0 comments:
Post a Comment